ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

"ขอพระองค์ทรงพระเกษมสันต์...เป็นมิ่งขวัญคนไทยทุกถิ่นฐาน...มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน...พระภูบาลคุ้มเกล้าเราชาวไทย"

จินตนาการผ่านคำพร่ำอักษร..มิใช่กลอนชีวิตลิขิตเขียน..ด้วยสนุกสุขใจจึงใฝ่เพียร..หากผิดเพี้ยนติติงขอวิงวอน
---->>

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ที่รักเรารักกันไม่ได้





ที่รักเรารักกันไม่ได้




ในชาตินี้ ที่รัก รักไม่ได้
เพราะหัวใจ เธอเล่า มีเจ้าของ
เธอมีคู่อยู่ชิดคิดใฝ่ปอง
มิเรียกร้อง ให้เรียงอยู่เคียงใจ



หทัยหม่นทนหมองไห้ร้องร่ำ
แสนระกำ น้ำตา หามีไหล
คิดลืมรัก พักหยุด สุดอาลัย
ห้ามมิได้ ใจเป็นเช่นทาสคุณ
.........

ภ.ภาพวาด


สมัยนิยม




สมัยนิยม

สมัยนี้เกาหลีเขาที่หนึ่ง
เล่นซะอึ้งเลยนะจะบอกให้
ทั้งซีรี่ดารา..บ้ากันไป
ตามสไตร์อินเทรนเน้นให้ดู


การแต่งตัวเสื้อผ้าอีกหน้าผม
ดวงตากลมคู่โตว่าโก้หรู
กางเกงสั้นแค่คืบเข้าหลืบรู
มันน่าดูตรงไหนในสายตา


ทั้งขาดำขาขาวใส่เข้านั้น
ขนาดฉันหญิงแท้(คิด)ว่าแก้ผ้า
เทรนนิยมสมัยนี้ที่มีมา
ลดคุณค่าหญิงไทยให้เสื่อมโทรม


อีกละครตอนนี้นี่แย่นัก
เหมือนจูงชักนิสัยหลงใหลโฉม
ทั้งนางเอกนางร้ายหมายน้าวโน้ม
แต่งประโคมผ่านจอจูงล่อใจ


ค่าของคนควรซึ้งถึงความหมาย
แต่สภาพการแต่งกายคล้ายไม่ใช่
หากผู้หญิงดีดีมียางไซร้
เขาคงไม่โชว์เนื้อหนังดังที่มี


ใช่จะว่าแต่หญิงไทยชายใช่ย่อย
หัวหยิกหยอยฝอยขัดหม้อพ่อเกาหลี
โบะแป้งหนาหน้าขาวจั๊วส่วนตัวงี้-
ก็ดำปี๋สีตัดขัดลูกตา

.........

หรือเพราะฉันแก่ไปหรือไงหนอ
จึงมีข้อติเผยเอ่ยกล่าวหา
แต่ยี่สิบต้นต้นผ่านฝนมา
คงไม่แก่เกินกว่าจะว่าไป


ภาพขอโทษตรงนี้ทั้งพี่น้อง
ด้วยมุมมองแตกต่างจึงวางไข
หากกระทบกระเทียบเปรียบผู้ใด
ขอเข้าใจความคิดหนึ่งซึ่งต่างมอง


ฉันมีมุมอีกมากหลายหลากด้าน
ที่ยังค้านสังคมไทยใจขุ่นข้อง
หนึ่งในนั้นคือชื่อสื่อทำนอง
ไปยกย่องต่างภาษามาแต่งเติม


ชื่อไทยเพราะความหมายดีมีออกมาก
แต่ดันอยากได้ชื่อดังฝรั่งเสริม
และยุคนี้เกาหลีมีประเดิม
ไทยเห่อเหิมยิ่งเหลือ..เชื่อเขาเลย!!!~


คิดอะไรกันอยู่ดูไม่ออก
มองของนอกเลิศล้ำนำมาเผย
ชื่อก็แปลก"แด..จังไว"ไม่คุ้นเคย
ขอเปรียบเปรยแค่คร่าวคร่าวกล่าวให้ฟัง


ยังดาราหน้าเต้าฮู้ดูว่าหล่อ
กรี๊ดลั่นฮอ..ฉันอยากโห่!!ด้วยโธ่ถัง
ถ้าให้เทียบเปรียบศรีหนุ่มมุมกล้องบัง
พวกนั้นยังห่างมากยากวัดเลย
.........

ภ.ภาพวาด





          ปล..วัน นั้นไปทำบัตรประชาชน เจอผู้ชายคนหนึ่ง(ไม่รู้จัก)  แต่งตัวงี้ทันสมัยมาก หึหึ!! ใส่ไอ้กางเกงขาพิการอ่ะ (ส่วนล่างมันจะรีบจนเหมือนขาเป็นปอริโอ) เสื้อก็ตัวเล็กซะ แล้วก็มีโซ่ล่ามหมาห้อยตรงเอว ทรงผมก็ยาวหยิก(ทรงอีเพิ้ง) ผิวเขาก็ขาวนะ และเขาก็ทาหน้าเสียขาวจั๊วยังกะผีกองกอยจีนแน่ะ ปากก็แดงซะ(จินตนาการกันเอาแล้วกัน)  อยากบอกว่าติดตามาก ไอ้เราก็  พอไปเห็นก็จ้องเขาซะไม่อายเลย555 !! ที่จ้องอ่ะ ไม่ใช่ว่าประทับใจหรือรู้สึกว่าโอ่ดาราหลุดมาจากจอนะ  แต่ มันเป็นความรู้สึกที่ว่าทำไปได้ไงวะนี่?!!  ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ?!!  เขาคิดว่าเขาหล่อใช่ไหมนี่?!! (คิดในใจนะไม่กล้าพูดหรอก55)

          ที่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเล่าก็ไม่อยากให้คนรู้จักรอบข้างแต่งแบบนี้ ไม่ว่าเพื่อน พี่ หรือน้อง (ขอร้องล่ะ+!!)เพราะมันไม่ได้ดูหล่อ เทห์ อะไรเลยนะมันตรงกันข้ามทั้งหมด ทำตัวตัดผมลองทรงสั้นๆ เสื้อยืดใส่กางเกงหลวมๆสบายๆมันจะดูดีกว่าเยอะนะ
ก็ฝากไว้แค่นี้แหละ

---------------------------------------------------------------



สมัยใหม่ ไทยอย่างไร ผมไม่รู้
ไม่ได้อยู่ คู่ประเทศ ในเขตขัน
แต่คิดถึง หนึ่งเทศไทย ไปทุกวัน
ไทยเปลี่ยนผัน กันไร้ชัด พัฒนา


แถมอีกมุม รวมชุมสาย ให้ปลายชัด
เขียนสบัด ปัดปากกา มาบอกหนา
จากมุมเล็ก เด็กสิบเจ็ด เหน็ดอุรา
คงต้องมา ว่าบอกกล่าว ว่าเศร้าใจ



รุ่นใหม่มา พาหญิงชาย  วายคุณค่า
พัฒนา มีมางง ตรงส่วนไหน
รัฐบาล ร่านแต่ตน ไม่สนไทย
ครูก็ไซร้ ไม่เหลือค่า มาเป็นครู



ทางภาครัฐ จัดละคร นอนดูได้
สวมโขนใส่ ให้ตัวตน เป็นคนหรู
เขียนศีลธรรม นำคนไทย ไปลงคู
ไทยทุกผู้ อยู่แบบเขลา เขาเชิดตี



ทางครูไทย คงใกล้ค่า เรือพาเทียว
หวังเครื่องเกี้ยว เหนี่ยวประทับ ประดับศรี
ทิ้งศิตย์ไทย ให้โง่ตรม ขมชีวี
หมดหน้าที่ มีเกรดใบ ให้ศิตย์ชม



โทษที่ใคร ถ้าไม่ใช่ แต่ใจเด็ก
เพราะลูกเล็ก ไม่แยใย ให้ควรสม
ปล่อยเด็กไป ไผลตามใจ ใจก็จม
สุขอารมณ์ สมพ่อแม่ รังแกเอา



แต่งโดย ...  ปราชญ์ศรีกวีนอก 

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พอทำได้




พอทำได้


กลอนคือคำนำเรียงเสียงอักษร
ร่ายเป็นตอนบทหนึ่งซึ่งเสกสรรค์
วางสัมผัสนอกในให้มีกัน
สิ่งสำคัญเสียงลงส่งให้ดี


ก่อนเริ่มแต่งแบ่งจัดสัมผัสหาย
ทั้งความหมายว่าไปไม่คงที่
มันวกวนคนว่าด่ายังมี
แต่ความที่ชอบอยู่จึงสู้ทน


ทั้งคำติคำเตือนเหมือนคมแหลม
คอยทิ่มแทงก่อกวนชวนสับสน
ได้คำชมเป็นยาทาเนื้อตน
ให้ดิ้นรนฝนฝึกนึกท้าทาย


ขอบคุณคำติชมที่บ่มสอน
ให้บทกลอน"เริ่มจะดี"มีความหมาย
ทั้งเสียงลงตรงฉันท์มิผันกลาย
อีกลวดลายภาษาเริ่มน่ามอง


ทุกคำติคำเตือนเอื้อนเอ่ยอ้าง
ทุกแนวทางท้าทายใช่ขุ่นข้อง
ความรู้สึกนึกสนุกปลุกทำนอง
จึงได้ลองวางจัดสัมผัสดู


ที่เคยผิดเสียงเพี้ยนเขียนดำน้ำ
ก็พอทำได้แล้วแนวทางสู่
จึงใครอยากฝากวอนอ้อนผู้รู้
มาเป็นครูหนูด้วยช่วยแนะแนว
.........

ภ.ภาพวาด



ต้นทุนทุกข์-ต่อด้วยทุกข์



ต้นทุนทุกข์-ต่อด้วยทุกข์


เหนื่อยเหลือใจ ไกลลับตา ขอบฟ้ากั้น
กว่าคืนวัน จะหมุนผ่าน นานเหลือหลาย
หลับตานิ่ง พิงหน้าต่าง อย่างสบาย
เพียงพักกาย แต่ใจเจ็บ ทนเก็บกลืน


เหมือนอยู่เดียว เปลี่ยวคว้าง ท่ามกลางเหงา
มีเพียงเงา คอยเคียงอยู่ สู้ความขื่น
เสียงร่ำร้อง ก้องดวงใจ บอกให้ยืน
ให้ทนฝืน อีกสักหน่อย ค่อยค่อยไป


มือจับยึด หน้าต่างไว้ ยันกายลุก
เอาความทุกข์ เป็นทุนก่อ ต่อแรงให้
ด้วยชีวิต ติดในโลก ความโศกใจ
ก็ต้องใช้ ให้เกิดผล กับตนเอง


ต้นทุนทุกข์ ต่อด้วยทุกข์ เผื่อสุขบ้าง
ใช้แนวทาง ทุกข์ทับถม เข้าข่มเหง
ทุกข์ที่ทุกข์ ให้มันทุกข์ ทุกข์ละเลง
ด้วยเลิกเกรง ทุกข์ผลาญเผา เพราะเราชิน


เคยหวังสุข สุขสบาย ในภายหน้า
แต่ผ่านมา มีแต่ทุกข์ สุขหายสิ้น
ถึงแม้ก้าว เดินต่อไป ในแผ่นดิน
ก็คงดิ้น ด้วยทุกข์ ทุกข์เช่นเคย
.........

ภ.ภาพวาด



วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อย่าโหดร้ายกับคนต่ำ..ช้ำซ้ำซาก








อย่าโหดร้ายกับคนต่ำ..ช้ำซ้ำซาก



ไม่ได้มีความรู้ให้ชูเชิด
แต่ขอเถิดเปิดใจให้กันบ้าง
อย่ามองเหยียดเดียดฉันท์คิดกั้นกลาง
จนต้องต่างห่างจุดไปสุดมุม


ฉันเป็นคนเดินดินยังกินข้าว
แลบ้างคราวร้าวใจดั่งไฟสุม
มีสุขทุกข์คลุกเคล้าเข้าเร้ารุม
ให้กลัดกลุ้มคลุมเคลือเหลือจะทน


หากต้องพบสบตาตีค่าต่ำ
คงตอกย้ำหัวใจให้สับสน
ด้วยเพราะทุกข์มีมาพาอับจน
จึงคิดหวังจะพ้นคนดูแคลน


หากขีดขั้นชั้นระดับเพื่อทับถม
ช่วยเหยียบจมลงไปฝังให้แน่น
อย่าได้มีรูระบายในดินแดน
เพราะเจ็บแค้นสิ้นหวังสุดลำเค็ญ


อย่าโหดร้ายกับคนต่ำช้ำซ้ำซาก
ทำเราจากจบไปไม่ต้องเห็น
หากปล่อยอยู่..ค่อยเชือดมันเลือดเย็น
ขอเธอเป็นเพชฌฆาตในดาบเดียว
.........

ภ.ภาพวาด



วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

◆ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ

◆ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ







เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ : หยิบหย่ง, ทําอะไรไม่จริงจัง, ไม่เอาการเอางาน.




เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อขอกล่าวขาน
ไม่เอาการงานมีทำหนีหาย
หยิบนี่นั่นมันวุ่นหมุนรอบกาย
แล้วสุดท้ายก็ทิ้งสิ่งที่ทำ


แรกมุ่งมั่นฝันไว้เสียไกลลิบ
แต่พอหยิบจับจริงยิ่งน่าขำ
กรีดนิ้วกรายขายหน้าทีท่าคลำ
ไอ้เรื่องร่ำรวยนี้ไม่มีทาง


ทำอะไรไม่จริงทิ้งกลางปล้อง
มันจึงต้องเป็นอย่างนี้จุดที่ต่าง
ถึงจะรวยป่วยการเพราะงานวาง
จบทุกอย่างเช่นกันมันดิ่งลง


หากเอาจริงสิ่งดีมีใจสู้
เท่ากับสู่ความสำเร็จเป็นเคล็ดส่ง
เติมต่อทุนหนุนเอื้อเพื่อดำรง
รากฐานคงถึงชัยไม่ยากเกิน


ให้ลองเปรียบเทียบเคียงเรียงลำดับ
ใครจะอับใครรุ่งมุ่งสู่เถิน
คนหยิบหย่งหลงมัวพาตัวเพลิน
หรือผู้ที่เผชิญเดินอย่างจริง


ใช้สติวิเคราะห์เจาะให้ลึก
จิตสำนึกพึงมีนั้นดียิ่ง
พยายาม..เลือกตามใครไปช่วงชิง
แล้วจึงวิ่ง ด้วยตนของตนเอง
.........

ภ.ภาพวาด

ฝันสลาย






ฝันสลาย



ฝันสลายตายซากยากชุบขึ้น
รู้สึกมึนอ่อนเปลี้ยเพลียสังขาร
วาดรักหรูคู่ครองจองไว้นาน
มิทันสานก็จบติดลบใจ


สองเราต่างอย่างมากยากครองคู่
พิจารณาดู..รู้ไม่ได้
เหมือนเส้นบางพรางใจของใจไว้
พอฝืนใกล้..ไกลอีกเดินหลีกทาง


หรือพรหมท่านนั้นปิดลิขิดรัก
ให้อกหักก่อนที่มีคู่ข้าง
หรือสัจจะวาจาเราว่าวาง
ที่ถูกสร้างขึ้นกั้นฉันกับเธอ
.........

ภ.ภาพวาด


วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ดูตะวัน..วันต่อไป







ตะวัน..วันต่อไป



เมื่อพี่ตายคำที่ได้"เสียใจด้วย"
แต่หาช่วยอะไรกับใจไม่
ยิ่งทวีความปวดรวดร้าวใจ
เกือบเผาไหม้กายเราเป็นเถ้าธุลี


ไม่ต้องการหรอกหนาที่ว่านั้น
ไม่ต้องปันแบ่งไปให้คลายคลี่
ฉันเจ็บได้ปวดได้ในฤดี
ไม่ต้องมีใครร่วมด้วยช่วยแบ่งเบา


อาจมีบ้างบางทีที่ท้อแท้
จนย่ำแย่แดดวงติดบ่วงเศร้า
มากปัญหาถาโถมจู่โจมเอา
จนใจเราสุดตรมล้มทั้งยืน


ถึงจะช้ำย่ำแย่สักแค่ไหน
ยากมีใครแบ่งเบาจนเราชื่น
ต้องผ่านเองฝันร้ายในค่ำคืน
เพื่อที่ตื่นดูตะวัน..วันต่อไป
.........

ภ.ภาพวาด


มันรวดเร็ว





มันรวดเร็ว


วางภาษาว่าถ้อยร้อยสลัก
ด้วยเจ็บหนักหัวใจเรื่องใหญ่ยิ่ง
พี่มาลับดับวายเหลือกายทิ้ง
มันเหมือนสิ่งคาดหวังมาพังครืน


เพียงสดับรับสาส์นผ่านอักษร
กายก็อ่อนซึ่งแรงจะแข็งขืน
น้ำตาหยดรดบ่ากว่าเก็บกลืน
เสียงสะอื้นอึงอื้อครางชื่อครวญ


เหมือนโดนตีตรงหัวตามัวพร่า
กับคำว่าพี่ตายใจปั่นป่วน
คำบอกเล่าเฝ้าดูสู้ทบทวน
หัวใจจวนจะแตกแหลกลงพลัน


มันรวดเร็วเรื่องมีที่ได้อ่าน
ทรมานหมองไหม้ฤทัยหวั่น
ไม่ได้คิดคาดว่าต้องลากัน
จึงยากกลั้นกลืนเก็บเจ็บที่เป็น


ไม่ได้พบพูดสั่งครั้งสุดท้าย
เหลือเพียงลายภาษาว่าให้เห็น
ย้ำให้กล้าฝ่าไปในประเด็น
สุดลำเค็ญขมขื่นยากฝืนทำ


พี่จะรู้บ้างไหมว่าใจน้อง
มันเหมือนต้องคมเคียวเกี่ยวกระหน่ำ
รอยแผลแล้วแผลเล่าเฝ้ารับกรรม
สะอื้นร่ำตลอดกอดเงาตัว
.........

ภ.ภาพวาด

(แต่งไว้นาน ประมาณวันที่ 29 มิถุนายน 2554)



ไม่ทันรัก





ไม่ทันรัก


แค่หัวใจไหวหวั่นไม่ทันรัก
ก็อกหักแล้วเราเศร้าจนได้
ผิดสัจจะละวางเรื่องทางใจ
เป็นผลให้เทพองค์ทรงลงทัณฑ์


ทั้งที่ย้ำคำอยู่อย่ารู้สึก
สร้างผลึกเกาะแก่งกำแพงกั้น
แต่แล้วไยใจจึงถึงดื้อรั้น
เฝ้าวาดฝันเขาคู่อยู่นมนาน


แอบคิดลึกนึกไกลใจพร่ำเพ้อ
หลงละเมอหมายมั่นกับฝันหวาน
เขาทำดีด้วยนิดคิดเกินการณ์
ใจแหลกลาญ..แต่(ยัง)ไม่เริ่ม เพราะเคลิ้มไป
.........

ภ.ภาพวาด



ใจเพื่อตน





ใจเพื่อตน


ในบางครั้งหวังไกลใจนั้นท้อ
มิอาจต่อกำลังต้องนั่งเฉย
หมดเรี่ยวแรงแข็งสู้อยู่อย่างเคย
คนก็เย้ยเยาะหยันให้ฉันจม


มิตรที่มีหนีหน้าเขาล่าถอย
ญาติก็ปล่อยตามกรรมช้ำสาสม
ต้องอยู่เปลี่ยวเดียวดายยามกายล้ม
ทุกข์ระทมกับปัญหาสารพัน


บ่อยครั้งบอกตัวเองเก่งให้ได้
ทางอีกไกลอย่าหลีกติดปีกฝัน
แพ้วันนี้ที่ล้าอย่าจาบัลย์
ใจเท่านั้นที่เหลือไว้เพื่อตน
.........

ภ.ภาพวาด


สวรรค์ชั้นดิน








สวรรค์ชั้นดิน




ลมหนาวพัดสะบัดโบกไม้โยกไหว
ละอองไอหมอกพร่างกลางเวหา
แม่คะนิ้งเกาะกอดยอดหญ้าคา
ละลานตาทั่วภูอยู่บนดอย


ธรรมชาติวาดศิลป์ถิ่นมนุษย์
งามที่สุดทรงค่าหาได้ด้อย
ทะเลหมอกดอกไม้งามไม่น้อย
โอ่!!ชะรอยแดนสวรรค์บนชั้นดิน
.........

ภ.ภาพวาด



อักษรไมตรี






อักษรไมตรี


ใช้อักษรย้อนคำเอ่ยพร่ำพจน์
วางตัวบทเชื่อมเราเข้าเป็นผล
ต่างถิ่นฐานบ้านไกลในสกล
กลอนเปรียบมนต์ดลเธอให้เจอกัน


ยิ้มทุกทีที่อ่านผ่านภาษา
เห็นคุณค่ามิ่งมิตรทิศทางฝัน
กำลังใจจุนเจือเอื้อสัมพันธ์
ด้วยมุ่งมั่นหมายว่าคว้าถึงชัย


เพื่อนสะดุดจุดใดไม่เหยียบซ้ำ
จะช่วยนำทำทางก้าวย่างได้
หลุมหรือบ่อตอกั้นจงมั่นใจ
จะเคลียร์ให้ไปรอดตลอดทาง
.........

ภ.ภาพวาด



12 ธันวาคม ->วันเกิด พี่ภพ ภควา





12 ธันวาคม ->วันเกิด พี่ภพ ภควา


ถึง12 ธันวาอาลัยรัก
น้องตระหนักวันนี้มีความหมาย
ครบกำเนิดเกิดสู่ลูกผู้ชาย
พร้อมท้าทายชีวิตทุกทิศทาง


ความทรงจำล้ำค่าคราคิดถึง
ยังตราตรึงห้วงใจไร้รอยหมาง
ความเป็นพี่ที่เห็นไม่เว้นวาง
คือทุกอย่างของทั้งหมดขีดกฎเกณฑ์


ความเข้มแข็งแกร่งกล้านัยน์ตากร้าว
มักลุกวาวหมายสู้ดูโดดเด่น
ได้ฉายาพูดน้อยต่อยจุดเน้น
หลายคนเผ่นเพราะมาดอำนาจมี


พี่เป็นพี่ที่รักน้องนับถือ
หลายคราวดื้อรั้นบ่อยไม่ถอยหนี
กลยุทธ์ปราบพยศลดดีกรี
ก็ช่างมีไม่ซ้ำมักนำมา


รูปของพี่ที่จำทำให้ยิ้ม
เป็นรอยพิมพ์ภาพใจให้โหยหา
แม้จะนานกาลเวียนเปลี่ยนกี่ครา
พี่คือค่าความสำเร็จชั้นเกรดเอ
.........

ภาพวาด อภิญญา
๑๒.๑๒.๒๕๕๔


http://www.rukklon.com/

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เจ็บดี







เจ็บดี



สุขที่สุดจุดหนึ่งซึ่งเป็นอยู่
ชีวิตหรูเหลือกล่าวจะเล่าขาน
ครอบครัวล้อมพร้อมหน้ามาเนิ่นนาน
สุขสำราญรั้วรักเพราะหลักคง


กาลเปลี่ยนผันวันนี้เกิดที่ว่าง
เมื่อหลายอย่างพลิกกลับปรับให้หลง
ด้วยทางทิศบิดเบี้ยวเลี้ยวเป็นวง
มิได้ตรงดุจเก่าจึงเศร้าใจ


หลักเริ่มโอนโค่นล้มล่มเป็นแถบ
มันเจ็บแสบตรงนี้ที่หมองไหม้
ความเป็นอยู่เปลี่ยนด้านผลาญทรวงใน
และข่าวไกลพี่ชายมาวายวาง


ก็ชีวิตผิดเพี้ยนเปลี่ยนไปหมด
หรือเป็นกฎกงกรรมเคยทำสร้าง
เราก่อเหตุแห่งผลจนติดราง
ชีวิตจึงก้าวย่างเข้าทางตัน

.........

คิดว่าหมดหนทางจะย่างก้าว
ความปวดร้าวหัวใจสุดไหวหวั่น
คิดว่าโลกมืดมิดสนิทพลัน
แต่ยังมีแสงสวรรค์นั้นสาดมา


เพียงริบหรี่ที่เห็นว่าเป็นแสง
ส่องแสดงนำทางให้ย่างฝ่า
เราก็ยึดเป็นหลักพักกายา
แต่ไม่ช้าหลักกลายมาหายไป


คนพยูงจูงมือยื้อให้อยู่
ทำร้ายหนูซ้ำสองหมองกว่าไหน
ความรู้สึกนึกกลัวเต็มหัวใจ
ทอดอาลัยชีวิตปิดใจพอ
.........

ภาพวาด อภิญญา
๑๑.๑๒.๒๕๕๔



สายสัมพันธ์..พี่-น้อง







สายสัมพันธ์..พี่-น้อง



สิ่งมากมายรายล้อมถนอมเกื้อ
กลายเป็นเยื่อสายใยแห่งใจข้า
รักร้อยเกลียวเกี่ยวผ่านกาลเวลา
เกินภาษาสรรค์สร้างวางบรรยาย



ความพันผูกถูกต่อทอจากเริ่ม

นานวันเพิ่มพูนมากมีหลากหลาย

ความขัดแย้งแห่งกันพอมันคลาย
ยิ่งกลับกลายเป็นเรายิ่งเข้าใจ




เสียงทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งเถียง

ใช่จุดเสี่ยงบาดหมางอย่างหวั่นไหว

พี่กับน้องข้องขัดกัดเท่าไร
ยิ่งเชื่อมใยโยงเราเข้าทุกที




"รักนะคะ"จะเอ่ยเผยฝากถึง

ห้วงคะนึงของใจนั้นใช่พี่

มองแสงดาววาววามยามราตรี
ดวงฤดีเปี่ยมสุขทุกครั้งแล




ใสระยับจับตาคราสาดส่อง

นวลละอองผ่องผุดดุจดวงแข

แสงดาวน้อยลอยก่อต่อเป็นแพ
กลับมีแค่แสงหนึ่งซึ้งในทรวง



.........



ดาวดวงน้อยลอยคว้างทางทิศเหนือ

สีระเรื่อพร่างพรูดูโชติช่วง

แลเด่นตาครานี้มีเพียงดวง
อยู่บนห้วงหาวเหินเชิญให้ชม




เมื่อเพ่งพิศความคิดพาใจข้าย้อน

วานวันก่อนทั้งสนุกทั้งสุขสม

มีพี่ชายประคองยามน้องล้ม
แม้ขื่นขมปลุกปลอบพี่มอบแรง




ได้ลุกสู้รู้จุด..หยุด หรือ ย่าง

กับแนวทางมีทั่วหัวระแหง

พี่มักนำถามรอยคอยระแวง
เป็นกำแพงคุ้มครองน้องเรื่อยมา



.........



แต่วันนี้พี่ชายมาตายจาก

จำพลัดพรากเพราะโรคเร้าเข้ามาหา

อันเนื้องอกในสมองของพี่ยา
เป็นตัวคร่าชีวันให้บรรลัย




ไม่ได้พบสักครั้ง..สั่งส่งท้าย

มีเพียงแต่จดหมายมอบไว้ให้

ทุกถ้อยลักษณ์อักขราภาษาไทย
จำขึ้นใจหมดแล้วเป็นแนวทาง




จะสรรเสริมสร้างก่อต่อจากนี้

สิ่งที่พี่คิดทำจะทำบ้าง

แล้วสุดท้ายปลายฝันฉันขอวาง
คือปลูกสร้างร้านหนังสือ..ชื่อ"บ้านไทย"
.........



ภาพวาด อภิญญา

๑๑.๑๒.๒๕๕๔





มีเรื่องเกิดกับหนูมากมายเลย ภายในปีนี้ ส่วนมากมีผลต่อความรู้สึก
แต่ช่างมันเถอะ ช่างมัน

อยากยอมแพ้







อยากยอมแพ้



"สบายดี"คำนี้ต้องมีเสมอ
สิ่งร้ายเจอเจ็บล้น"ทนนะฉัน"
ตัวคนเดียวเดินได้ในทุกวัน
ไม่ไหวหวั่นอีกแล้วแนวทางมี


เพื่อนก็ต่างห่างใจไกลไปเรื่อย
เหลือเราเหนื่อยเดินอยู่สู่วิถี
อนาคตเป็นไงร้ายหรือดี
ไม่อาจชี้สิ้นสุดว่าจุดใด


อยากยอมแพ้หลายครั้งกำลังหมด
แต่ก็อดทนต่อด้วยพอไหว
เกิดมาแล้วแนวทางเจ็บอย่างไร
เมื่อยังไปได้อยู่ควรสู้ทน


เราเข้มแข็งแกร่งได้อย่างไรนี่
ทั้งที่มีเรื่องมาพาสับสน
หรือใจชาจนชินเลิกดิ้นรน
กลายเป็นคนเฉยหมดเก็บกดแทน


คิดครวญคิดผิดใดทำใครไว้
เจ็บที่ได้ถึงปวดรวดร้าวแสน
เขาคงทุกข์จุกไม่น้อยสร้างรอยแค้น
ชีวิตเราจึงแขวนบนแดนตรม


เป็นชาติก่อนหรืออดีตขีดกำหนด
ฉันขอชดใช้ไปให้สาสม
ทำเลวร้ายใดมีที่ระทม
ชาตินี้จมทุกข์ตกยืดอกยอม
.........

ภ.ภาพวาด