ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

"ขอพระองค์ทรงพระเกษมสันต์...เป็นมิ่งขวัญคนไทยทุกถิ่นฐาน...มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน...พระภูบาลคุ้มเกล้าเราชาวไทย"

จินตนาการผ่านคำพร่ำอักษร..มิใช่กลอนชีวิตลิขิตเขียน..ด้วยสนุกสุขใจจึงใฝ่เพียร..หากผิดเพี้ยนติติงขอวิงวอน
---->>

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2555

หาคำตอบ




หาคำตอบ



อยากจะลองครองคู่ รู้ว่าเสี่ยง
เหมือนเอาคอขึ้นเขียงเพียงรู้จัก
ถลำลึกรู้สึกดีที่ทายทัก
จะเจ็บหนักเท่าใดนะใจเรา


อาการสั่น หวั่นหวาดไม่อาจปิด
กลัวความคิดผิดหลักรักโศกเศร้า
คู่เคียงครองต้องจบอย่างซบเซา
อยู่กับเงาตนเอยที่เคยชิน


ถ้าไม่ลองครองคู่ไม่รู้หรอก
ผลที่ออกคงฝักใฝ่ใจถวิน
แต่หัวใจจะไม่เปรอะเลอะราคิน
จนชีวิตมีรอยด่างพร้อยเลย


เอาอย่างไรใจจ๋า หาคำตอบ
จะเสี่ยงมอบรักวางข้างเขนย
หรือจะเมินเดินหนีอย่างที่เคย
หาเฉลยหัวใจยังไงดี
.........

ภ.ภาพวาด

ต้อนรับคุณ ลิตเติลเกิร์ล




มิตรภาพบ้านรักกลอนอักษรสื่อ
ข้อนี้คือหลักใหญ่ใช่ทำโก้
สนุกเขียนสนุกคิดมีสิทธิ์โชว์
ไร้ซึ่งโล่รางวัลการช่วงชิง

อยู่อย่างพี่อย่างน้องอย่างผองเพื่อน
ผิดติงเตือนแนะไปในทุกสิ่ง
สร้างคุ้นเคยด้วยภาษาวาจาจริง
ขอต้อนรับ"คุณหญิง-->>ลิตเติลเกิร์ล"

ภ.ภาพวาด

กินข้าวลุง









กินข้าวลุง

กลอนไม่ไปเพราะหิวไส้กิ่วนะ
แล้วลุงจะใจร้ายกับภาพเหรอ
ขอข้าวหนึ่งจานใหญ่ ให้ได้เรอ
ลุงจะเจอกลอนหลานนั้นทันที
--( ภ.ภาพวาด )--



อ้อ้อ้อ้ออ ตอรอง กับท้องปาก
จะลำบาก ไปไหน ไม่เต็มที่
เดี่ยวต้องกลิ้ง ไปหรอก บอกด้วยดี
ข้าวจานนี้ ส่งให้ ให้อ้วนอวบ
--( ลุงสา )--



กลัวที่ไหนลุงสาจัดมาด่วน
ถึงจะอ้วน อิ่มพอ หลานขอควบ
หุ่นจะเผละเละไง ให้ได้ซ๊วบ
แล้วค่อยรวบเนื้อล้วนม้วนที่พุง
--( ภ.ภาพวาด )--


ไม่กลัว









ไม่กลัว


เคว้งคว้าง ชีวิต ไร้ทิศแน่
อ่อนแอ เกินสู้ รู้ยากฝืน
ยอมรับ กับบท สลดกลืน
ยิ้มขื่น ใจตน ผลตอบแทน

รอบกาย ปัญหา คณานับ
รุกรับ ปรับไป ไร้ซึ่งแผน
ก้าวเท้า ไม่หยุด จนสุดแดน
ยากแค้น เพียงตาย มิได้กลัว
.........

ภ.ภาพวาด
อา.๕.๘.๒๕๕๕


ฐานไม่มั่น









ฐานไม่มั่น
ซึ้งจนเอียนเปลี่ยนแล้วความแน่วแน่
ทุกอย่างแค่ผ่านมา..คุณว่าไหม?
เคยสำคัญวันนี้มีอะไร!!
ที่บอกได้อีกครั้ง..ยังเหมือนเดิม!!


เห็นแต่ทางห่างเหินจนเกินกู่
เราต่างรู้กันดีจากที่เริ่ม
ความสัมพันธ์วันเก่าคอยเฝ้าเติม
ฐานยังเสริมไม่มั่นเลยสั่นคลอน


และวันนี้ดูท่าว่าจะแหลก
ถึงรอยแยกแตกหักกับรักก่อน
ไม่มีสิทธิ์ชิดเชยเคยหนุนนอน
น้ำตาปอนเปียกพรมล้มทั้งยืน
.........

ภ.ภาพวาด
ส.๔.๘.๒๕๕๕

รอข่าว









รอข่าว


สายตาจ้องมองหาพี่ข้าหาย
จึงรู้สึกกระสับกระส่ายกว่าใจห้าม
เคยเห็นชื่ออยู่บ่อยคอยต่อความ
แต่สงครามทำให้เราไม่เจอ


พี่เป็นไงบ้างนะ ณ ครานี้
สบายดีหรือเปล่าน้องเฝ้าเหม่อ
ไร้ซึ่งข่าวกล่าวส่งน้องหลงเบลอ
กลัวจนเผลอคิดฟุ้งซ่านอยู่นานเลย


หากมาได้ส่งข่าวกล่าวให้รู้
น้องรออยู่ พี่จ๋า อย่าเมินเฉย
เพียงสักคำ "สบายดี" นะพี่เอย
คนคุ้นเคยจะได้สบายใจ
.........

ภาพวาด
ศ.๓.๘.๒๕๕๕


อารมณ์คน









อารมณ์คน


อารมณ์คนเปลี่ยนง่ายได้หลายอย่าง
ในแบบต่างขั้วอยู่ดูเหมือนเจ๋ง
ดีเป็นร้าย ร้ายเป็นดี มิมีเกรง
แต่หากเพ่งมองลึกจะนึกกลัว

แค่กระพริบตาเดียวเจียวนะนั่น
ที่เปลี่ยนกันสลับให้กลับขั้ว
หลายคนควบคุมวางอย่างลงตัว
ไม่เมามัวหลงติด..จิตปล่อยวาง

และหลายคนหลงกลวังวนนี้
ยึดอารมณ์เกิดมี ชั่ว-ดีสร้าง
ปล่อยชักจูงตนไปในเส้นทาง
จนเป็นรางทอดยาวแล้วก้าวตาม
.........

ภ.ภาพวาด
พฤ.๒.๘.๒๕๕๕


พล่ามพล่อย









พล่ามพล่อย


สักแต่ปากเจรจาจะหาเรื่อง
ให้ขัดเคืองข้องจิตคิดเดียดฉันท์
กล่าวกระแนะกระแหนแค่เมามัน
พอสุดกลั้นเกิดคุมก็รุมตี


คำถากถางสร้างศัตรูอยู่ทุกเมื่อ
คนเขาเบื่อ ไม่คบคอยหลบหนี
คำโบราณท่านฝากปากอัปปรีย์
คนอย่างนี้ไม่ช้ามีราคิน


หากจะพูดครวญคิดสักนิดน้อย
อย่าพล่ามพล่อยเสื่อมศักดิ์ไร้หลักศิล
มองมุมเขาดูก่อนตอนได้ยิน
แล้วใช้ใจตัดสินก่อนลิ้นรัว


คำทุกคำใช่เพียงลม..คือคมมีด
มักอาจกีดหัวใจใครเขาทั่ว
ฝังผนึกลึกลงอย่างตรงตัว
ความหมองมัวจึงมีที่คนฟัง
..........

ภ.ภาพวาด
พฤ.๒.๘.๒๕๕๕


ไม่แต่ง - แต่ง









ไม่แต่ง - แต่ง


จนมุมกลอนตอนนี้แล้วซิคะ
จากนี้จะแต่งอะไรให้มันเจ๋ง
คิดคิดอยู่ดูท่าน่าหวั่นเกรง
หรือจะเจ๊งหมดทางตายกลางครัน


แนวกลอนรักว่าง่ายสบายบื๋อ
บัดนี้หรือจอดสนิทคิดแล้วขัน
แนวอกหักรักคุดตุ๊ดตบกัน
เล่นเอาฉันมึนมัวมั่วไม่ไป


แนวชีวิตคิดสักพักชัหมดเซนต์
ก่อนเคยเค้นคำวางสร้างเรื่องได้
แต่เดี๋ยวนี้ชาชินไม่กินใจ
แล้วภาพจะ เขียนอะไรยังไงดี


หรือเป็นเพราะหงุดหงิดจิตงุ่นง่าน
ทั้งเรื่องานเรื่องโน่นและเรื่องนี่
เลยหมดจินตนาการด้านกวี
คงต้อง"พัก" สักทีแล้วซิเรา


"เฮ้อออออออออ!!!!!"


ถอนหายใจยืดยาวเมื่อกล่าว"พัก"
ทำให้ชักลังเลหน้าเบ้เข้า
ความสนุกเคยฝักใฝ่ใช้บรรเทา
หากว่าเอาตั้งบนหิ้งคงยิ่งตรม


ตัดสินใจจะเขียนพากเพียรต่อ
แม้ด่านต่อขวางหน้าหาขื่นขม
ด้วยความชอบมีเกินเพลินอารมณ์
มันจะบ่มประสบการณ์ชำนาญเอง
.........
พ.๑.๘.๒๕๕๕


คลายจากใจ







คลายจากใจ


คนเคยคุ้น คลับคล้าย คลายอ้อมแขน
รักคลอนแคลน เคลื่อนที่ คิดหนีหน้า
ครางคร่ำครวญ หวนพร่ำ รำพึงพา
หลั่งน้ำตา สุดคว้าไขว่ ไว้ครอบครอง


จำจรจาก รักจาง นั่งจับเจ่า
แลจันทร์เจ้า เจิดจ้า ใจข้าหมอง
เจ็บจู่โจม โถมถลำ จึงจำจอง
สะอื้นร้อง เจียนขาดใจ ใกล้จวนแจ


กงกรรมรัก กักกัน กั้นกลางไว้
ก่อกำแพง แกล้งใจ ไกลเกินแก้
กล้ำกลืนเจ็บ เกรอะกรัง โดนรังแก
กอดกุมแผล เก็บกลับ ซับน้ำเกลือ
.........

ภ.ภาพวาด
พ.๑.๘.๒๕๕๕


บันทึก กลอน รายวัน








บันทึกกลอนรายวันของฉันนี้
ด้วยหมายที่ฝึกหัดสัมผัสเสียง
อีกทั้งเพื่อ ความคล่องของสำเนียง
ตั้งมาเพียงเขียนลงส่งรายวัน

ไม่มีเรื่องแน่นอนจบตอนผ่าน
ด้วยต้องการคุ้นคำนำเสกสรรค์
ใช้อารมณ์ร่วมด้วยเข้าช่วยกัน
เป็นบันทึกของฉันเท่านั้นเอง

ภ.ภาพวาด
อ.๓๑.๗.๒๕๕๕


สวมหน้ากากตีสนิท





สวมหน้ากากตีสนิท


พวกออกแรงแผลงฤทธิ์ไม่คิดหนัก
ด้วยเพราะมักชักสีหน้าว่ามุ่งหมาย
ตาต่อตาฟันต่อฟันนั้นสบาย
เข้าทำลายตามเกมส์เต็มกำลัง


พวกซ่อนลายร้ายลึกที่นึกหวาด
ความอาฆาตรุนแรงแทงข้างหลัง
ทุกวิธีทำได้ให้พ่ายพัง
ช่างน่าชังกว่าอีก..ควรหลีกไกล


ปากพูดจ้อฉอเลาะอย่างเหมาะเหม็ง
แต่ตาเล็งอยากเชือดให้เลือดไหล
สวมหน้ากากตีสนิทเป็นมิตรใจ
มือข้างหลังกำมีดไว้หมายจะฟัน
.........

ภ.ภาพวาด
อ.๓๐.๗.๒๕๕๕

เติมหวาน







เกาะเกี่ยวเป็นเกลียวกลม
รื่นภิรมย์ชมชิดใกล้
สัมพันธ์ซึ่งมั่นไว้
คือหัวใจมอบให้กัน

รักเริ่มเติมความหวาน
สื่อส่งผ่านไร้ด่านกั้น
เคียงอยู่คู่คืนวัน
มีเรานั้นนิรันดร

ภ.ภาพวาด

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ไปตามทางชีวิต









ไปตามทางชีวิต


เดี๋ยวก็วัน ผันผ่าน ไม่นานนัก
พอสักพัก พ้นเดือน มาเคลื่อนหนี
ยามถึงช่วง ห้วงเวียน ผลัดเปลี่ยนปี
ช่างมากมี เรื่องหลาย ให้เราเจอ


บางเรื่องลืมตกหล่นผลคือหาย
บางอย่างคล้ายตรึงจิต คิดเสมอ
บางสิ่งช้ำ จำฝัง ภวังค์เพ้อ
บางหนเผลอ หลงตรม จึงซมซาน


แม้ชีวิตจะต้องมองให้ออก
สิ่งลวงหลอกถ้ายึดติดผิดแก่นสาร
คิดสลัดให้หลุดสุดต้านทาน
กลายเป็นความทรมานจนด้านชา


เพราะเคยคุ้นขุ่นข้องความหมองศรี
เลยไม่มีความรู้สึกนึกผวา
รู้เพียงแค่ยังมีลมหายใจพา
ให้ก้าวเท้าไปข้างหน้า..เพื่อฝ่าฟัน


ทำยามนี้..ตรงนี้..ดีที่สุด
เมื่อสะดุดหยุดมองตรองเป็นขั้น
หาทางรอดปลอดภัยไปวันวัน
ถึงชีพพลันล่มสลาย..แค่ตายเอง


ไม่จำเป็นต้องขลาดหวาดกลัวแล้ว
เดินตามแนวไร้ทิศ..ไม่คิดเคร่ง
ชะตาข้าขอวาง..อย่างมิเกรง
มันจะเจ๊ง หรือเจ๋งดี..คงที่ดวง
.........

ภ.ภาพวาด
ส.๒๘.๗.๒๕๕๕


กำลังใจเธอ










นั่งมองดาวพราวฟ้าระย้าแสง
กำลังใจเธอแฝงเป็นแรงส่ง
จากคนล้าล้มคลืนยืนไม่ตรง
ก็กลับทรงกายอยู่เพื่อสู้ไป

ขอบคุณเหลือเจือนจุ่นเป็นทุนเสริม
ฉันจะเริ่มอีกคราวเก้าวต่อได้
ด้วยวันนี้มีรักเป็นหลักชัย
จึงพร้อมเริ่มต้นใหม่อย่างไม่กลัว

ภ.ภาพวาด
๒๗.๗.๒๕๕๕

ตัวถ่วง









ตัวถ่วง


แล้วอีกนานเท่าใดใจจึงพร้อม
จะได้ล้อมรั้วรักพักกันสอง
เคยมีกันฝันอยู่เป็นคู่ปอง
บัดนี้ต้องหมองหม่นเพราะทนรอ


ยากมากหรือถ้าฉันสู้อยู่เคียงข้าง
บนเส้นทางงานมีที่ร่วมก่อ
หากใจเติมเพิ่มแรงคงแกร่งพอ
อาจไปต่อได้ดีกว่าที่เป็น


หรือว่าฉันมันถ่วงเป็นห่วงห้อย
เธอถึงคอยเลี่ยงหลบไม่พบเห็น
เผยข้ออ้างวางไว้ให้ใจเย็น
เปิดประเด็นลงหลักก่อนรักกัน
.........

ภ.ภาพวาด
๒๗.๗.๒๕๕๕

ไฟอิฉา









ไฟอิฉา


เมื่อดวงจิตถูกแต่งคราบแห่งตม
จึงโสมมเปื้อนเปรอะเลอะกันเกร่อ
ความอยากได้ครอบงำทำพร่ำเพ้อ
มักหลงเซ่อเดินเข้าอย่างเมามัว


เห็นเขาได้..กูนี้ต้องมีบ้าง
ทำทุกอย่างยอมผิดความคิดชั่ว
แม้ต้องแก่งแย่งครองเป็นของตัว
ถวายหัวยอมแลก..อย่าแปลกใจ


ความอิฉาพาตาบอดต้องขอดค่อน
เหมือนสุมฟอนเป็นเชื้อเพื่อเผาไหม้
ทุกข์จู่โจมโถมถาคล้ายว่าไฟ
ที่เผาให้ใจดำคล้ำดั่งตอ
.........

ภ.ภาพวาด