ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

"ขอพระองค์ทรงพระเกษมสันต์...เป็นมิ่งขวัญคนไทยทุกถิ่นฐาน...มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน...พระภูบาลคุ้มเกล้าเราชาวไทย"

จินตนาการผ่านคำพร่ำอักษร..มิใช่กลอนชีวิตลิขิตเขียน..ด้วยสนุกสุขใจจึงใฝ่เพียร..หากผิดเพี้ยนติติงขอวิงวอน
---->>

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ชั่วฟ้าดินสลาย






ขอภัก  และรักนี้
ตราบชีวี  มีเธอใกล้
เคียงข้าง  สร้างสายใย
ตราบสิ้นใจ  ไม่ลบลา

หวังเพียง  ได้เคียงคู่
มีเธออยู่  รู้ไว้หนา
ความรัก  จักภักตรา
ตราบชั่วฟ้า  สลายลง

แดนใจ  ใช้ใจสร้าง
เราเคียงข้าง  ต่างเสริมส่ง
ปลูกใจ  ให้ยืนยง
ขอรักคง  จงเคียงกัน

วาดฝัน  วันพรุ่งนี้
ด้วยรักมี  ที่เสกสรรค์
ทอสาย  หมายผูกพัน
แต้มความฝัน  กันต่อไป

ภาพวาด

บัดนี้ไทย...ยังเป็นทาส


บัดนี้..พ้น  ชนชั้น  ที่กั้นขวาง
บัดนี้..ต่าง  ทางไป  ในวิถี
บัดนี้..เหลื่อม  เสื่อมถอย  เข้ารอยมี
บัดนี้..ที่  ชีวีคน  เข้าชนเดิม

ไทย..นี้เอย  ที่เคยพ้น  ชนชั้นกั้น
ไทย..นี้พลัน  เข้าที่  ไม่มีเสริม
ไทย..นี้ทำ  ย่ำตน  เพราะคนเติม
ไทย..นี้เริ่ม  เป็นทาสเขา  เข้าอีครา

ยัง..กิน-ใช้  ใช้-กิน  ในถิ่นนอก
ยัง..ยังเที่ยวออก  นอกไกล  ให้รู้ว่า
ยัง..เป็นงี้  ที่เป็น  เช่นเป็นมา
ยัง..เป็นข้า  เขาต่อ  และต่อไป

ทาส..แบ่งชน   พ้นมา  จากคราก่อน
ทาส..จะย้อน  ศรคืน  ขื่น  กว่าไหน
ทาส..ต่างชาติ  ต่างเง่า  ต่างเผาไทย
ทาส..นี้ไซร้  ให้เห็น..เป็นเพราะเรา

ภาพวาด

กลอนจากชื่อเพื่อนที่กวี




'ภาพวาด'น้อย  รูป'รอยทราย'  ปลาย'พู่กัน'
เมื่อ'เหมันต์'  'วันวาน'  'รอ'นานเหลือ
'ยิ้มเหงา'เหงา  หยด'น้ำหวาน'  'หวานเย็น'เจือ
'ปอย'แก้มเรื่อ  'ชะเอม'ผ่อง..'ทองน้ำเงิน'


เป็น'แค่คน -คนหนึ่ง'  ซึ่ง'แอบรัก'
'หนึ่งเดียว'ภัก  รัก'ใจเอย'  ไม่เคยเขิน
เป็น'รักแรก  ครั้งสุดท้าย'   ปลายทางเดิน
คุณ'น้องจ๋า'  อย่าเมินเหลียว  'ใจเดียว'มี


'สุดหัวใจ'  'หงส์เดินดิน'  ไม่'ชินชา'
'จันทร์เจ้าขา'  'ดารารุณ'  อุ่นแสงสี
หาก'ครางแครง'  'นักรัก'ชาญ  'กานต์รวี'
'วราลี'  สาวใต้'  'ไร้ตัวตน'


เล่ม'เทียนขาว'  คราวจุดใส่  'ไฟตะเกียง'
เปรียบเทียบเคียง  'เพียงปลายฟ้า'  คราหมองหม่น
'แสงเทียน'ผ่อง  ส่อง'กิ่งไผ่'  ไหวระคน
เปรียบดั่งต้น  'วนา'ชัฏ  'รัตติกาล'


'บันทึกหน้า -สุดท้าย'  'ปลายตะวัน'
'ดินสอสี-โศก'นั้น  กลั่นคำขาน
'เศษกระดาษ'  วาดใส่  'ดอกไผ่บาน'
ติด'กระดาน'  เหนือ'หน้าต่าง'  อย่างบรรจง

ภาพวาด

หั ว อ ก เ จ้ า น า ย





นึกว่าเป็น  เจ้านาย  สบายหรือ
มันก็คือ  คือกัน  อันความหมาย
มองให้ลึก  นึกถึงปม  อย่างมงาย
ว่าเหนื่อยกาย  เหนื่อยใจ  ไม่ต่างกัน

สั่งลูกน้อง  ต้องนั่งจี้  ไม่มีนับ
กว่าขยับ  จะจับงาน  นานอยู่นั่น
บางคนดู  รู้ดี  มีเล่ห์ทัน
แอบหลบพลัน  ฉันหละกลุ้ม  หลายมุมจริง

บางคนปราชญ์  ฉลาดเฉลียว   ปราดเปรียวนัก
มาชอบลัก  ชอบขโมย  โกยทุกสิ่ง
หน้าซื่อ-ใส  ใครจะบอก  ว่าหลอกลิง
ทำเป็นนิ่ง  พูดประจบ  หลบแต่งาน

ให้ขึ้นของ  ต้องคอยดู  เพราะรู้เชิง
หากระเริง  หลงคม  คารมผ่าน
พ่อขึ้นเกิน  เดินขาย  ได้กันอาน
เหลือทุนบาน  ไว้ให้ตรู  ดูมันทำ

บ้างรู้จุด  นั่งแช  แหมดีเนอะ
พอไปเจอะ  จับนี่-นั่น  ฉันหละขำ
เมื่อถึงท้าย  ปลายสัปดห์  เอ่ยว่าคำ
ก็พูดพร่ำ  รำพัน  กลั่นน้ำตา

ไอ้ที่ดี  ก็มีเอา  ใช้เหมาหมด
แต่ที่บท  จะอู้  ดูเยอะกว่า
คิดกันเพลิน  เงินมาก..เรายากนา
แต่ไยหนา  ไม่คิดบ้าง  สิ่งต่างกัน

ไหนจะค่า  ลูกน้อง  ของในบ้าน
ทุนก็อาน  วานจำแนก  แยกเป็นสรรค์
ทั้งรายจ่าย  หลายอย่าง  ต่างมีนั้น
รู้ไหมมัน  มากแค่ไหน  ลองใคร่ครวญ

พูดปาวปาว  กล่าวว่า  วางท่ามาก
แล้วถ้าหาก  ปล่อยไป  ให้หยวน.หยวน
ลองคิดดิ..ซิจ๊ะ  นะใครกวน
บางทีรวน  ชวนฉุน  จนวุ่นวาย

และหนึ่งข้อ  ขอให้รู้  อย่าดูผ่าน
เมื่อในงาน  วานจงรับ  ปรับความหมาย
ฉันคนนี้  มีชื่อ  ว่าคือนาย
อย่าดูดาย  ในหน้าที่  มีร่วมกัน

ส่วนนอกงาน  ตอนไหน  เมื่อได้สบ
คุณจะตบ  บ่ามา  ว่าสังสรรค์
ด้วยสนุก  ทุกอย่าง  ต่างเมามันส์
ฐานะฉัน  นั้นคือเพื่อน  ก็เหมือนเดิม

ภาพวาด

ลาแล้ว



คืนใจ  ให้นั้น  ฉันปวด
ร้าวรวด  แสนช้ำ  กำสรวญ
แต่รัก  ภักดี  ตีตรวน
ทบทวน  ครวญคร่ำ  จำลา

คืนใจ  เธอนี้  ที่มอบ
คงตอบ  แทนให้  ไร้ค่า
รักฉัน  มันแค่  มายา
อย่ามา  ส่งใจ  ให้กัน

ลาแล้ว  แน่วแน่  แม้เจ็บ
ขอเก็บ   เธอไว้  ในฝัน
ด้วยเลว  เกินกว่า  ผูกพัน
อย่าหัน  มาเลย  เอ๋ยเธอ

ภาพวาด

รักเธอ..เป็นวันสุดท้าย



รักเธอเป็น  วันสุดท้าย  หมายครองคู่
ด้วยเพราะรู้  ผู้ครองใจ  ไม่ใช่ฉัน
ขอวันนี้  นาทีนี้  เราามีกัน
สานสัมพันธ์  วันสุดท้าย  ได้ครอบครอง


เก็บเวลา  นาที  มีเธอข้าง
ไว้เป็นทาง  สร้างฝัน  ในวันหมอง
เพียงวันเดียว  เกี่ยวเก็บมา  นาทีทอง
แม้ต้องนอง  น้ำตา  เพื่อลาไกล


ขอรักเธอ  วันสุดท้าย  และท้ายสุด
ถึงแม้จุด  หยุดรัก  จักหวั่นไหว
ฉันยินยอม  พร้อมยื่น  คืนเธอไป
เพื่อมอบให้  กับเขา  เจ้าของจริง

ภาพวาด

แผ่นดินพ่อ แผ่นดินแม่






แผ่นดินพ่อ  แผ่นดินแม่  แต่ยุคเก่า
ท่านแลกเอา  ด้วยชีวิต  จงคิดบ้าง
จับมีดดาบ  ปราบศัตรู  สู้ถางทาง
เพื่อทุกอย่าง  คงงดงาม  ความเป็นไทย


ท่านกอบกู้  สู้ทน  จนสำเร็จ
แม้เหนื่อยเหน็ด  ยอมพลี  ชีวีให้
เพื่อลูกหลาน  รุ่นหลัง  ยังคงไว้
เอกราช  ประชาธิปไตย  ของไทยเรา


ถือกำเนิด  เกิดยืน  บนผืนดิน
อย่าสร้างคราบ  ราคิน  หมิ่นองค์เจ้าฯ
จะคริสต์-พุทธ  มุสลิม  ถิ่นลำเนา
จงรู้เง่า  รากรก  ที่ปกครอง


แผ่นดินพ่อ  แผ่นดินแม่  แผ่ไพรศาล
เป็นรากฐาน  ที่มั่น  อันผุดผ่อง
เป็นขวานไทย  ในแคว้น  แดนถิ่นทอง
เป็นเพื่อนพ้อง  น้องพี่  ที่มีกัน





ภาพวาด

ขอบคุณพี่แครง


สวัสดีค่ะ  พี่ครางแครง

ไม่เคยหวั่น  สั่นไหว  ในเรื่องนี้
แต่วจี  ที่แม่สั่ง  ยังสับสน
พูดเหมือนลา  พาใจหาย  ร้ายชอบกล
จึงเป็นผล  ให้หมอง  ในห้องทรวง



แลอีกสิ่ง  ที่ระลึก  ยามนึกถึง
ในวันหนึ่ง  ซึ่งบรรลุ  อายุล่วง
แม่บอกไว้  ให้ฟัง  ฝังแดดวง
เหมือนเป็นห่วง  บ่วงรัด  ขัดเงื้อตาย



ยี่สิบลุ  อายุครบ  บรรจบถึง
มีวันหนึ่ง  ซึ่งแม่จ๋า  จะลาหาย
ภาพกลัวจัง  ฝังจด  บทชีพวาย
ด้วยมิหมาย  ให้เป็น  เช่นบอกมา



แต่ครั้งนี้  พี่จ๋า  หาใช่ร้าย
แม่สบาย  ดีแล้ว  แก้วขวัญข้า
ต้องขอบคุณ  ทุกสิ่งไซร้  ในโลกา
ที่ไม่พราก  ชีวา  พาแม่ไป



ขอขอบคุณ  พี่ครางแครง  แรงกำลัง
ที่พี่ยัง  ส่งษร  เป็นกลอนไข
ทุกคำตอบ  มอบมา  พาซึ้งใจ
น้องจะทำ  ให้ได้  ให้สัญญา

ภาพวาด


คุณแม่ภาพหายแล้วค่ะพี่ครางแครง  แต่ขอให้คำพูด ที่คุณแม่เคยบอก  ไม่เป็นความจริง


อาหารนก







แค่นกน้อย  ตัวนิด  ไยคิดผลาญ
จับไปยำ  ทำอาหาร  จานที่หมาย
ถึงกับล่า  ฆ่าชีวิต  คิดทำลาย
มันเลวร้าย  เกินทน  คนหนอคน

อาหารอื่น  หมื่นล้าน  หลายจานเด็ด
มิเอร็ด  อร่อยถึง  จึงไม่สน
กลับมาล่า  ฆ่านกป่า  พนาดล
เพื่อเปรอปน  ความต้อนการ  ผลาญชีวี

ภาพวาด

แม่อยู่ไหน


แม่จ๋าแม่  แม่หนู  อยู่หนไหน
จะมองลูก  อยู่ไหม  ในกลางหาว
แสงระยิบ  วิบวับ  ระยับพราว
ใช่..แม่กล่าว  ข่าวมา  จากฟ้าไกล

อยู่บนนั้น  ชั้งสรวง  ห้วงเวหา
ขอเคียงข้าง  ลูกยา  อย่าไปไหน
รักและอุ่น  กรุ่นเอย  เคยเคียงใจ
อย่าจากไป  เหมือนครานั้น  ให้ฉันตรม

ฉากสุดท้าย  หมายลา  น้ำตาร่วง
โอ้แดงดวง  ห้วงลึก  นึกแล้วขม
กอดร่างกาย  ไร้วิญญา  พาระทม
ลูกนี้จม  อยู่กับวัน  อันมืดมน

ภาพวาด

อยากบอกรักเธอ



มีหนึ่งคำ  คำนี้  ที่คาค้าง
อยู่ระหว่าง  กลางใจ  ฉันใคร่เผย
ตั้งท่าออก  จะบอกไป  ให้ชื่นเชย
แต่โอ้เอ๋ย  ใจหนา  มิกล้าลอง

เพียงคำเดียว  ในจิต  ที่คิดไว้
กลับบอกไป  ไม่ได้...ให้หม่นหมอง
คำว่ารัก  รักเธอ  เสมอ..ปอง
กลับถูกครอง   ด้วยความกลัว  ปิดตัวตาย

ภาพวาด

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

หัวข้อความรัก


เห็นหัวข้อ  ความรัก  ให้หนักอก
ชั่งเจ็บฟก  รกรุม  กลุ่มจริงฉัน
มีความรัก  หลายอย่าง  ต่างต่างกัน
ที่เวียนผัน  ผ่านมา  พาผ่านไป

ทั้งความรัก  ประจักษ์แท้  ที่แม่มอบ
ทั้งคามรัก  ส่งกอปร  ตอบมาให้
ทั้งความรัก  ฉันท์เพื่อน  เตือนดวงใจ
ทั้งความรัก  ที่ยาวไกล  พี่ชายเรา

แต่ความรัก  ตัวอย่าง  ทำหมางหมอง
ยามแลมอง  หมองหม่น  ระคนเศร้า
คือความรัก  ของแม่พ่อ  ก่อชีพ..เงา
ที่รุมเร้า  เผาใจ  ไปทุกวัน

ภาพวาด

ค่าน้ำนม







ความรักแม่  แผ่ซ่าน  ผสานสม
เป็นน้ำนม  กลมกล่อม  จากอ้อมอก
หนึ่งหยดริน  จากจินต์ดา  มาฟูมฟก
ท่านกอดกก  ปกเกล้า  แต่เยาว์มา


พระคุณท้น  ล้นเปียม  ใดเทียมเทียบ
ไม่อาจเปรียบ  สิ่งใด  ในโลกหล้า
ฟ้าจรดดิน  สิ้นสมุทร  สุดธารา
ยังเล็กกว่า  คุณมารดา  ของข้าเอย

ภาพวาด

ตอบกวี

มิตรที่ดี  มีอะไร  ไว้กำหนด
มิตรกบฏ  มีอะไร  ใช้นำหนุน
มิตรคือเพื่อน  เพื่อนคือมิตร  คิดการุณ
ต้องใช้ทุน  เท่าใด  ได้มิตรดี

ภาพวาด

..........................

ตอบกวี

กลอนบทนี้  มีนัย  อะไรแฝง
ให้เคลือบแคลง  แรงรัก  อักษรร่ำ
เหมือนร้องไห้  ในอก  พี่ฟกช้ำ
ด้วยน้ำคำ  นำเรียง  ใช่เพียงกลอน

ครั้งได้อ่าน  พาลไหว  ใจสะอึก
ความรู้สึก  ลึกนั้น  มันไหวอ่อน
ผู้หญิงไหน  ใครหนา  ไม่อาทร
ทำให้ษร  กลอนหนู  ดูจริงจัง

ภาพวาด

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จะมีใครมั่นรัก



สมัยนี้  มีมาก  ไม่ยากหา
ละลานตา  ว่าไป  ไม่โหลงเหลง
เมื่อก่อนนี้  มีน้อย  พลอยวังเวง
จึงครื้นเครง  ใจนัก  กับรักจริง

สมัยนี้  หญิงชาย  ทั้งหลายแหล่
ชั่งผันแปร  แก่ใจ  ง่ายเสียยิ่ง
พูดคำรัก  ทักทาย  เพียงหมายอิง
ไม่ว่าชาย  ว่าหญิง  ไม่จริงใจ

จะมีไหม  ใครกัน  ที่มั่นรัก
ไม่แปรภัก  หักลา  พาหวั่นไหว
ซื่อและตรง  คงแท้  ไม่แปรไป
มอบรักให้  ไม่ลวง  ห้วงอุรา

ภาพวาด

น้ำคือชีวิต



ให้กินดื่ม  ดื่มกิน  มิสิ้นหมด
ทุกหยาดหยด  รดไหล  รู้ใช้สอย
อย่าเททิ้ง  ติ้งต่างว่า  ค่ามันน้อย
พอหรอร่อย  ร่อยหรอ  คง บ่ มี

หากไร้น้ำ  ไร้ชีวิต  หมดสิทธิ์อยู่
เมื่อไม่รู้  ค่าน้ำใช้  ในถิ่นที่
วันหนึ่งหมด  ไร้หยดน้ำ  จำให้ดี
ไร้ชีวี ....... มีชีวิต...  จะคิดครวญ

ภาพวาด

ตอบแทนผืนดินที่ยิ่งใหญ่



ขอ..มอบชีพ  ชีวี  ที่มีนี้
ตอบ..แทนคุณ  ธรณี  ....ยอมพลีได้
แทน..ผิดครั้ง  ตัวเรา  ยังเยาว์วัย
ผืน.ที่เกิด  ผืนที่ไทย  ให้เรายืน

ดิน..ทุกเมตร  เขตขัน-ฑสีมา
ที่..ให้ข้า  วิ่งซน  หกล้มลื่น
ยิ่ง..มิ่งมง  จงอยู่  คู่แผ่นพื้น
ใหญ่..เป็นหมื่น  ผืนแดน  แผ่นดินไทย

ภาพวาด

ตอบกวี

มองดูหน้า  หารู้จัก  ทักไม่ได้
มองดูใจ  ไหวหวั่น  อย่าหันหุน
มองดูตัว  กลัวใจ  ไม่จารจุน
มองดูลุ้น  คุณคิดไง  ในเนื้อคำ

ภาพวาด

.........................
ไม่ต้องไล่  ไปแน่  ไม่แคร์ดอก
รักหลอกหลอก  รู้ไว้  ไร้ความหมาย
เธอก็แค่  คนหนึ่งนี้  ที่เป็นชาย
คงไม่ตาย  หากไร้เพียง  เธอเคียงกัน

ภาพวาด

..........................
แค่ความคิด  จินตนา  เวลาย้อน
จริงรานรอน  อ่อนอก  ใจหมกไหม้
ไม่มีทาง  ระหว่างเรา  จะเข้าใจ
ด้วยต่างใช้  อารมณ์  จึงซมซาน

แม้ว่าย้อน  เวลา  ไม่ครานั้น
แต่ว่าฉัน  เชื่อยิ่ง  ในสิ่งผ่าน
มันจะเกิด  ขึ้นซ้ำ  ทำร้าวราน
ไม่อาจผ่าน  ถึงฝั่ง  ดั่งคิดเออ

ภาพวาด

...........................................
เปล่าหลอกใช้ เธอหนา  อย่าหาความ
เธอมาตาม  คอยจัด  ดูครัดเคร่ง
ไม่ใด้ชวน  เธอไว้  ไยต้องเกรง
เปล่าข่มเหง  เธอด้วย  ช่วยแจ้งใจ

เธอมาเอง  มาอยู่  มาคู่ข้าง
ทุกทุกอย่าง  ต่างก็รู้  อยู่ใช่ไหม
ฉันไม่รัก  ไม่ได้ลวง  ให้ห่วงใย
เธอมาให้  ฉันเอง  ลองเพ่งดู

ภาพวาด

..........................................

ยินคำรัก  สลักสาส์น  เธอขานขับ
เพียงสดับ  รับไว้  พาใจเผลอ
ท้วงวลี  นึ้ซึ้ง  ถึงใจเออ
รักนะเธอ  เธอคนดี  นี้คนเดียว

ภาพวาด

..........................................
สุขแลทุกข์  คลุกเข้า  เคล้าผสม
ความตรอมตรม  จมอยู่  จงรู้หนี
สุขอิ่มเอม  เปรมปลื้ม  ด่ำดื่มดี
ก็หาจี-รังแท้  ไม่แน่นอน

ภาพวาด

....................................

คนไม่สำคัญ



เป็นเพียง  แค่ส่วนเกิน
ที่ถูกเมิน  ไร้คนมอง
ลาที  ถิ่นที่ปอง
กลับที่ครอง  ส่วนของเรา


เจ็บนัก  ด้วยหลักล้ม
ขอซานซม  กลับถิ่นเก่า
ที่นี้  ที่ของเขา
หากไร้เงา  เราคงดี


เปิดใจ  ให้จนหมด
ละเมิดกฏ  เกณฑ์ของพี่
หนีทัวร์  ทั่วธานี
สุดท้ายนี้  ชีช้ำใจ

ภ.ภาพวาด

สุขดีไหม

จากวันนั้น  ที่ไกล  ไปจากฉัน
เคียงเขานั้น  คนดี  ที่เธอหมาย
ทิ้งฉันไว้  ที่เก่า  เศร้าเดียวดาย
กับเรื่องเก่า  เฝ้าทำร้าย  ทำลายใจ

เธอสุขดี  หรือเปล่า  เล่าเธอจ๋า
บอกกันมา  บ้างซี  วลีไข
คนทางนี้  ที่ถูกทิ้ง เคยอิงไอ
ยังคิดถึง  ซึ่งคนไกล  ไม่เคยเลือน

ภาพวาด

♬ เชื่อใจเธอ ไม่ไว้ใจเขา


♬ เชื่อใจเธอ  ไม่ไว้ใจเขา




เชื่อใจเธอ  เสมอ  นะเธอจ๋า
แม้ว่าวัน  เวลา  จะพาผัน
ไว้ใจเธอ  เสมอ  เธอเท่านั้น
รักเพียงกัน  มั่นไว้  สองใจครอง


แต่พอเขา  คนนี้  ที่เข้ามา
แม้จักพา  ให้ไหว  ใจหม่นหมอง
แต่ยังคง  เชื่ออยู่  นะคู่ปอง
ไม่มีสอง  รองรัก  ให้หนักใจ


ไว้ใจเธอ  เชื่อใจเธอ  เสมอมั่น
แต่กับเขา  คนนั้น  มันไม่ใช่
ยิ่งมองตา  พาแปล๊บ  แสบฤทัย
เหมือนมีใย  บางบาง  ทอสร้างมา


มีคำรัก  ล้อมรั้ว  ก่อตัวตั้ง
มีความหวัง  ฝังทรวง  เขาห่วงหา
มีทุกอย่าง  พลางไว้  ในสายตา
มีพี่ยา  เป็นเดิมพัน  น้องมั่นใจ


เขาคิดไง  อย่างไร  ไม่ใคร่ทราบ
ขออุ่นอาบ  รักเติม  เราเพิ่มใส่
ต่อให้เขา  คิดแยกคู่  เราอยู่ไกล
แต่เชื่อใจ  ในรักนี้  ที่มีกัน

ภาพวาด

วันเกิด

สุขหนอสุข  สุขสันต์  ในวันเกิด
คล้ายกำเนิด  ประเสริฐศรี  ชีวีใส
ขอให้สุข  สมหวัง  สมดังใจ
คิดอะไร  ได้ด้วย  ฉันอวยพร

ภาพวาด

คานทองของฉัน



เรื่องคานทอง  ของฉัน  นั้นต้องแท้
มิใช่แร่  หรือกรวด  อวดไม่ได้
เมื่ออยู่แล้ว  ต้องอยู่ คง  ห้ามลงไป
เดี๋ยวคานไร้  เพื่อนคู่  คอยถูมัน

สั่งพิเศษ  เกรดแท้  แร่ทองหล่อ
สร้างเป็นหอ  พออยู่  คู่กับฉัน
กะว่าสอย  ไม่มีร่วง  ห่วงพัวพัน
เกาะแน่นมั่น  อยู่บนคาน  ชั่วกาลปี

ภาพวาด

หมดแรง



ไม่รัก  คำนี้  ที่ว่า
บอกมา  พาตรม  ขมขืน
สำเนียง  เสียงร้อง  ก้องคืน
ฉันยืน  นิ่งงัน  หวั่นทรวง

ทรุดร่าง  ลงข้าง  โขดหิน
เมื่อยิน  คำร้อย  ถ้อยห้วง
ไม่รัก  กันแล้ว  แก้วดวง
ไม่ห่วง  กันแล้ว  แล้วใจ

จบที  ที่ว่า  พาหวั่น
นิ่งงัน   หมดแรง  แกร่งไหว
แม้เพียง  เอ่ยความ  ถามใด
หมดไร้  ซึ่งคำ  จำนรร

ภาพวาด

• ขอเศษใจ






• ขอเศษใจ


เจอความรัก  มามาก  หลากหลายด้าน
ทั้งชื่นบาน  หวานเศร้า  คละเคล้าคู่
แต่ไม่เคย  เลยนะใจ  ใครอุ้มชู
จะเคียงอยู่  อย่างแท้  มิแปรไป


มีแบบพบ  คบชิด  สนิทข้าง
แล้วก็ต่าง  ห่างกัน  ให้หวั่นไหว
ไม่จีรัง  มั่นคง  ตรงกับใจ
ทิ้งฉันไว้  ให้เศร้า  เคล้าน้ำตา


อยากขอทาน  เพียงเศษใจ  ใครคนหนึ่ง
เป็นที่พึ่ง  หลักชัย  กับใจข้า
ยามท้อแท้  แค่อุ่น  กรุ่นกายา
ซับน้ำตา  ด้วยบ่าซ้าย  ได้ไหมเออ

ภาพวาด
18/6/53


วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตอบกวี

ให้ห่วงหา  คราเคล้าคลุก  ทุกข์ทับที่
บังเบียดบี้  ชีช้ำชอก  ยอกยับยิ่ง
โอ้อกเอ๋ย  เคยเคียงคู่   อู้เอนอิง
มาหมางมิ่ง  ทิ้งท้อแท้  ไม่แม้มอง

ภาพวาด

พ่อของแผ่นดิน







พระคุณพ่อ มากเหลือ เหนือรำพัน
เปรียบเหมือนดั่ง สุริยัน แสนยิ่งใหญ่
ส่องฉายแสง แรงฤทธิ์ ทุกทิศไป
ทำโลกให้ สุขสว่าง กระจ่างพลัน

ผืนดินใด ในหล้า ข้าวกล้าขาด
โรคระบาด ฝนฟ้า มาแปรผัน
ดินไม่ชุ่ม อุ้มน้ำสม ตรมชีวัน
ทุกข์ยากอัน เป็นของ ผองประชา

ทั่วถิ่นแคว้น แดนใด พ่อได้ผ่าน
ดินเป็นดาน แข็งปั๋ง ทั้งแน่นหนา
ทรงดำริ ปลูกแฝก แปลกเชียวนา
ดินกลับมา เขียวขจี ทุกที่ไป

ผืนแผ่นดิน ถิ่นไกล พ่อไปช่วย
ต้องข้ามห้วย เดินดง อย่าสงสัย
ชี้ชาวเขา เลิกปลูกฝิ่น สิ้นทันใด
ทรงแนะให้ ไม้ดอกผล เริ่มต้นทำ

มิว่าที่ อื่นใด ได้ทุกข์เข็ญ
พ่อแลเห็น ประชาราษฏร์ ขาดอิ่มหนำ
เศรษฐกิจ พิษลอบ เข้าครอบงำ
ทรงแนะย้ำ " พอเพียง " หล่อเลี้ยงตน

มีโครงการ มากหลาย ท่านได้สร้าง
รู้มาบ้าง คือ " แก้มลิง " สิ่งน่าสน(ใจ)
อีก " ฝนหลวง " ปัดเป่า ทุกเหล่าชน
ให้ได้พ้น เกินขาด มาตรการ

ทั้ง " แกล้งดิน " สิ้นกรด คลายรสกร่อย
โดยได้ปล่อย น้ำขัง ดังกล่าวขาน
อีก " ปลูกป่า ถาวร" ขจรนาน
หาใดปาน ทรงดำริ และตริตรอง

พลังงาน ของชาติ อาจวิกฤติ
ทรงประดิษฐ์ คิดค้น ไทยพ้นหมอง
แก๊สโซฮอล์ สอนทำ ตามครรลอง
ด้วยทรงมอง กาลไกล ได้คำนึง

มีโครงการ อีกมาก เกินยากกล่าว
เพียงคร่าวคร่าว เอาไว้ ใคร่กล่าวถึง
มูลนิธิ ชัยพัฒนา ยังตราตรึง
เป็นที่พึง ของประชา ดั่งวาที

แปดสิบเอ็ด พรรษา พ่อฟ้าหลวง
เทพทั้งสรวง แซ่ซ้อง ฉลองศรี
แด่พระพ่อ ยิ่งเหลือ เหนือชีวี
พระภูมี แห่งเกล้า ของชาวไทย

ฑีฆายุโกโหตุ มหาราชา
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ทรงพระเกษมสำราญเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้านายเบรฟฮาร์ทขอถวายพระพรชัย
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงโปรด

โดย..พี่เบรฟฮาร์ท

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

12ธันวา วันกลับและวันเกิด





...12ธันวา วันกลับและวันเกิด…


12ธันวาน่าใจหาย
ด้วยพี่ชาย  จากไกล  ไปสุดหล้า
หลังจากกลับ  คืนบ้าน  ชานชาลา
ให้น้องยา  ดีใจ  ได้ไม่นาน



กลับเพราะ  หน้าที่  ของพี่นั้น
แล้วจากกัน  เพราะหน้าที่  ยังมีสาน
เพียงหกวัน  ผันไป  ให้ชื่นบาน
กับเรื่องงาน  ศาลฟ้อง  ต้องคดี



โจรเข้าSAVE  เก็บงาน  ขายผ่านต่อ
จึงต้องงัด  ข้อดู  สู้ถึงที่
ฟ้องยังศาล  หลักฐานครบ  จบคดี
ลงต่อตี  ชิงชัย  ให้ได้มา



ศาลตัดสิน  พี่ชนะ  ดังกะไว้
โจรแพ้ไป  ไร้คำทาน  คัดค้านว่า
หลายอย่างจบ  ด้วยดี  ที่ศาลตรา
ลงอายา  คนผิด  ติดคุกไป



จนวันที่  12  ต้องกำหนด
ทำตามกฎ  เกณฑ์มี  ที่ยื่นให้
เมื่อขึ้นศาล  เสร็จสิ้น  ณ ถิ่นไทย
ต้องจรไกล  อีกครา  ดั่งว่าคำ



เป็นวันเดียว  กับพี่  ที่กำเนิด
คือวันเกิด  ลืมตา  ณ คราค่ำ
ปี ค.ศ.  แปดหนึ่ง  ซึ่งยังจำ
จึงเอ่ยพร่ำ  คำพร  เป็นกลอนกานท์



ขอให้มี  สุขภาพดี  มีแต่สุข
ขอให้ทุกข์  เปลี่ยนแนว  อย่าแผ่วผลาญ
ขอให้สม  ดั่งใจ  ในการงาน
ขอให้ผ่าน  สิ่งร้าย  ห่างกายไกล



ขอทุกพร  ดีดี  ให้พี่ฉัน
ขอสุขสันต์  วันเกิด  เปิดรับสิ่งใหม่
ขอคุณพระ  ปกป้อง  คุ้มครองภัย
ขอจงให้  ได้ดังหวัง  ตั้งประนิธาร



ทุกคำพร  จากใจ  ใส่อักษร
เป็นบทกลอน  แปลกแปลก  แจกผสาน
มอบแด่พี่  คนไกล  ในดวงมานต์
ให้สราญ  ชีวิน   ณ ถิ่นเรือง

ภาพวาด


หนูอวยพรไม่เก่งอย่าที่พี่รู้แหละ แต่ตั้งใจนะ
คิดหวังตั้งใจสิ่งใดให้ทำเองนะคะ

ภาพรักพี่ภพค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ตอบกวี

ไม่รู้สิ  ไม่แคร์  แค่คนลวง
ไม่รู้สิ  แค่หนึ่งช่วง  ยามทรวงไหว
ไม่รู้สิ  คงไม่สน  คนไร้ใจ
ไม่รู้สิ  รักเป็นไหม  หัวใจเรา

ภาพวาด

.................................
ยิ่งเสาะหา  ยิ่งไกล  ยากได้ครอง
ทุกสิ่งความ  ตามครรลอง  ของสวรรค์
ยิ่งไขว่คว้า  ว่าจะจริง  ยิ่งจาบัลย์
ยิ่งมุ่งมั่น  มันจะยุ่ง  ยิ่งรุงรัง

ภาพวาด

.........................................
จะเพื่อนนอก  เพื่อนใน  ออนไลน์นี้
ทุกคนมี  ความหมาย  ไม่เคยหยาม
ต่อให้มี  สิ่งใดพราก  จากบางยาม
แต่ในนาม  ความเป็นเพื่อน  มิเลือนลืม

ขอสัญญา  ว่าจะจำ  จำทุกสิ่ง
รักเพื่อนยิ่ง  กว่าใด  ใจด่ำดื่ม
เคยทุกข์ท้อ  ไร้แรงใจ  เพื่อนให้ยืม
แสนสุดปลื้ม  ลืมไม่ลง  จงรู้เกลอ

ภาพวาด
.............................................

เจ็บวันนี้  ที่เป็น  ลำเค็ญนัก
ฉันอยากจัก  แบ่งเบา  เศร้าเธอหนา
ทุกข์ที่มี  ในใจ  ใครนำพา
บอกฉันมา  เถิดเกลอ  เธออย่าตรม

ภาพวาด
..............................................
ว้าเหว่  เอกา  อุราโศก
วิโยก  ใจหวั่น  รักหันเห
ไม่ตรง  คงแท้  แปรเป็นเก
รักเร่  เห่ขาย  คนหลายใจ

มีหนึ่ง  ซึ้งสอง  มองหาสาม
นิยาม  ความคิด  จิตปองใหม่
รักเปลี่ยน  เวียนผัน  ไม่มั่นไว้
เชิญไป  ไกลไกล  ให้ห่างกัน

ภาพวาด
......................................
เรื่องความรัก  พูดยาก  ลำบากยิ่ง
บ้างรักจริง  บ้างรักลวง  ทรวงขื่นเข็ญ
บ้างรักแน่  บ้างรักหลอก  ชอกลำเค็ญ
ชี้ให้เห็น  เป็นอย่างไร  ไหน?..รักกัน

ภาพวาด  
..............................................
น้ำตาหยด  รดริน  ยามยินเสียง
ห้วงสำเพียง  เปล่งมา  พาเศร้าสร้อย
"จบกันเถิด  รักเรา"   ที่เฝ้าคอย
น้ำน้อยน้อย  ไหลแต้ม  พวงแก้มปราง

ภาพวาด

...................................................
รู้ตัวดี  นี่นา  ยอดยาหยี
ว่าฉันนี้  เปลี่ยนใจ  ควงไปทั่ว
เสียน้ำตา  ให้ทำไม  กับใจมัว
รักพันพัว  หัวใจเศร้า  เจ้าคนเดียว

ภาพวาด

...............................................
นั่งเหม่อลอย  ปล่อยใจ  ไปกับลม
น้ำตาพรม  ขมขื่น  สะอื้นหา
คิดถึงจัง  คนดี  ที่เมืองฟ้า
รอวันมา  พบเจอ  เสมอใจ

ภาพวาด
............................................
ลายเส้นภาพ  วาดบาง  อย่างอ่อนล้า
มีน้ำตา  แต้มปน  จนหมองไหม้
มิเข้มแข็ง  อย่างก่อน  ซ่อนความใน
ทุกข์ฤทัย  ใครเล่า  เขาจะแล

ภาพวาด
........................................

ตัดใจไม่ลง



เมื่อรักแล้ว  มอบใจ  ให้เธอหมด
ไม่เคยลด  ถดถอย  น้อยลงได้
เพราะให้แล้ว  ให้ทั้งทรวง  ทั้งดวงใจ
ไม่อาจกะ  เกณฑ์ได้  ที่ให้เธอ

นอกจากใจ  ให้ใจ  ส่งให้นี้
ก็ยังมี  ชีวี  นี้เสนอ
นอกจากนั้น  คงไม่มี   แล้วพี่เออ
เหลือเพียงร่าง  อย่างที่เจอ  เธอจงมอง

เมื่อเธอเลือก  เขาแล้ว  เป็นแก้วขวัญ
หัวใจฉัน  นั้นขื่น  กลืนความหมอง
แต่มิอาจ  ตัดใจลง  ยังคงครอง
ทั้งสี่ห้อง  เป็นของเธอ  เสมอไป

ภาพวาด
16/6/53
ขอเพียงมอง  อยู่ห่างห่าง  อย่างที่เห็น
ไม่ขอเป็น  คู่คิด  พิสมัย
ขอเพียงเธอ  สุขศรี  มีโชคชัย
และขอเก็บ  เธอไว้  ในใจพอ

ภาพวาด
.............................................
ฟังบทกลอน  พรอวย  ด้วยใจเศร้า
เปรียบดังเขา  เอามีดปัก  หักคาที่
มิคิดรั้ง  ยั้งอยู่  คู่ชีวี
เปล่งวจี  อวยพร  ด้วยกลอนชัย

ไม่รักแล้ว   หรือไร  ถึงไสผลัก
ไม่คิดจัก  ยื้อเรียง  เคียงใช่ไหม
จะปล่อยฉัน  คนนี้  ให้จากไป
โดยที่ไม่  แคร์กัน  อย่างนั้นฤา

ภาพวาด

..............................................
ตามอารมณ์  ตรมตรอม  พร้อมน้ำตา
ที่หยาดมา  คราฉัน  แสนหวั่นไหว
ไร้คนคู่  อยู่เชย  เคยเคียงใจ
มีเพียงไอ  ไร้เงา  ข้างเราแทน


สิ้นสุดลง  ตรงทาง  ต่างย้ายแยก
เริ่มจากแรก  แตกหัก  รักหวงแหน
ไม่มีกัน  หมั่นทอ  คอยต่อแกน
ที่สุดแขวน  รักไว้    กับสายลม

ภาพวาด

...................................................
ฉันได้ผ่าน  พ้นวัน  อันโหดร้าย
เพราะข้างกาย  มีเธอคู่  อยู่เสมอ
จากความท้อ  ต่อแรง  ให้แกร่งเออ
ด้วยเพราะเธอ  เธอเท่านั้น  พาฉันมา

ภาพวาด

................................................
เป็นเรื่องจริง  ของฉัน  ในวันนั้น
ด้วยอัดอั้น  เหลือเอ่ย  จะเผยกล่าว
น้ำตาริน  ในอก  ตกเม็ดวาว
กลับต้องจำ  ทำใจห้าว  ในคราวเดียว

ภาพวาด
.................................................
ให้ห่วงหา  คราเคล้าคลุก  ทุกข์ทับที่
บังเบียดบี้  ชีช้ำชอก  ยอกยับยิ่ง
โอ้อกเอ๋ย  เคยเคียงคู่   อู้เอนอิง
มาหมางมิ่ง  ทิ้งท้อแท้  ไม่แม้มอง

ภาพวาด

.................................................

สะท้อนทรวง



จากวันจาก พรากมา  ในครานั้น
ทุกทุกวัน  มีเสียง  สำเนียงสี
เกินจากลม  พรมพริ้ว  ทิวไม้มี
ก้องกวี  เสียดแทง  แสลงใจ

เหมือนมีใคร  สักคน  บ่นรำพึง
ฝากมาถึง  ตัวฉัน  ให้หวั่นไหว
สายลมโพย  โชยผ่าน  สะท้านไป
ดวงหทัย  ร้าวรอน  สะท้อนทรวง

ภาพวาด

หาใช่จริง



อันว่าโลก  โลกา  หาใช่จริง
สรรพสิ่ง  มีนั้น  มันไม่ใช่
ทั้งสุขทุกข์  คลุกเคล้า  แบ่งเบาไป
จงจำไว้  ไม่ใช่ทาง  ควรย่างเดิน

เมื่อมีสุข  ย่อมมีทุกข์  ให้บุกฝ่า
เมื่อก้าวมา  อย่าถอยหนี  ทางที่เหิน
เมื่อจนมุม  อับแสง  ไร้แรงเกิน
จงหยุดพัก  ให้เพลิดเพลิน  ค่อยเดินไป

ทางทุกทาง  ต่างแง่  แล้วแต่มอง
ทุกข์ที่หมอง  ลองเปลี่ยน  เวียนมุมใหม่
สุขที่เห็น  เช่นว่ามี  นี่กระไร
ก็หาใช่  ว่าแท้  โปรดแลดู

ภาพวาด
14/6/53

เพื่อนคำคอ



คำว่าเพื่อน  ค้ำคอ  เป็นตอแหลม
ยากเสียบแซม  เติมทุน  หนุนรักได้
เพียงแค่ข้าง  อย่างนี้  ที่ใกล้ไกล
และหวังให้  เธอสุข  ทุกวันวาน

เป็นได้เพียง  แค่นี้  นี่แหละหนอ
ไม่อาจทอ  ต่อเติม  เพิ่มความหวาน
จึงยินดี  ถอนรัก  ภักดวงมานต์
ให้เวลา  เลยผ่าน  ผสานทรวง

ภาพวาด

เผชิญช้ำ..คำว่าเพื่อน




เมื่อรู้ตัว  ว่ารักนี้  ที่มีนั้น
เป็นเพียงความ  คิดฉัน  ยามหวั่นไหว
ไม่อาจจะ  เติมต่อ  ทอสายใย
จึงตัดใจ  ตัดรัก  แล้วหักลา


ไม่อาจอยู่  คู่ดอก  เหมือนหลอกตน
ไม่อาจทน  ให้คนหยาม  ประนามว่า
ไม่อาจเจ็บ  ต่อไปแล้ว  แก้วจินดา
ไม่อาจกล้า  หาญหัก  เพื่อรักเรา


ขอจบลง  ตรงนี้   ลาทีหนอ
คนมอซอ  ขอห่าง  หลีกทางเขา
ไม่อาจแม้  เห็นแก่ตัว  หลงมัวเมา
จึงตัดใจ  ให้รักเรา  เป็นเงามน

ภาพวาด
13/6/53

เลือดต่างสี หรือ ฤดีคิดแสลง



ครวญคิด  ครวญใคร่  ในเรื่องสี
เหลืองนี้  แดงนั้น  มันต่างไหม
สรุป  จุดมี  ที่ว่าไว้
คือไม่  ต่างแม้  แต่นิดเดียว


เป็นคน  บนถิ่น  แผ่นดินผืน
ต่างยืน  สู้ไป  ไม่เปล่าเปลี่ยว
มีองค์  กษัตรา  ผู้ยาเยียว
ยึดเหนี่ยว  เกลียวกลม  สมเป็นไทย


แต่เพราะ  เหตุใด  อะไรหนา
จึงมา  ฆ่าฟัน  ให้หวั่นไหว
สิ้นสุข  ทุกข์ถม  ให้ตรมใจ
เพียงเพราะ  คนไกล  หรือไงกัน


โอ้ไทย  ฆ่าไทย  ในวันนี้
ย่ำยี  บีฑา  พาโศกศัลย์
เพราะสี    มีต่าง  วางขอบชั้น
แดนกั้น  งั้นฤา  หรือคนไทย



ภาพวาด

:-: จดหมายใคร :-:






เห็นจดหมาย  ลายมือ  กิ้งกือเขียน
คิดวนเวียน  สนสับ  กับคำถ้อย
ใครกันหนา  ส่งมา  วาจาร้อย
เปิดอ่านหน่อย  คงรู้  ผู้ใดเออ


ค่อยค่อยแงะ  แกะซอง  แล้วมองอ่าน
ุ้ท่วงทำนอง  คล้องหวาน  พาลนั่งเหม่อ
ใครกันนะ  เขียนส่ง  หลงละเมอ
คำพูดเพ้อ  เออ..ออ  เราก็อาย


นั่งอมอิ่ม  ยิ้มหวาน  หน้าชานเรือน
ทุกคำเอื้อน  เหมือนตรา  พาใจหาย
วูบไหววาบ  ซาบซ่าน  สะท้านกาย
เพียงเห็นลาย  สายษร  ทำอ่อนใจ


ใครกันนี่  ที่ส่ง  ไม่ลงชื่อ
มีลายมือ  สื่อหยัก  อักษรไขว้
แม้อ่านยาก  นิดหนึ่ง  ตรึงหทัย
เพราะคำไทย  ในจอมอ  ต่อมาเติม

ภาพวาด